ในปัจจุบันเทคโนโลยีได้ถูกรวมเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานในหลายๆ อุตสาหกรรม แม้กระทั่งในประเทศไทยเองก็มีการใช้ โรบอท เครื่องจักรสมัยใหม่ IoT ไปจนถึง ปัญญาประดิษฐ์ เพื่อช่วยให้การทำงานนั้นมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น บทความนี้เลยอยากนำเสนอการทำงานร่วมกันระหว่าง โคบอท แขนโรบอทอัจฉริยะกับมนุษย์ทำงานในอุตสาหกรรมต่างๆ
ทำไมถึงควรมีโรบอทแขนกลในการทำงาน?
โคบอททำงานได้รวดเร็ว มีประสิทธิภาพและปลอดภัย
โคบอทเป็นแขนโรบอทจักรกลอัจฉริยะ ที่สามารถปรับรูปแบบการทำงานได้ตามความต้องการของผู้ใช้งานหรือธุรกิจในแต่ละอุตสาหกรรม โดยโคบอทนั้นสามารถทำงานได้รวดเร็วและประสิทธิภาพ โดยมีหลักการทำงานผ่านการติดตั้งโปรแกรมการเคลื่อนไหวให้มีหน้าที่คล้ายมือของมนุษย์ เช่น หยิบ จับ บิด หมุน ไปจนถึงเคลื่อนไหวไปจุดต่างๆ ได้ โดยมีความรวดเร็วในการทำงานอย่างมาก รวมไปถึงการมีประสิทธิภาพในการทำงานที่สม่ำเสมอ ความเร็วไม่ตกรอบลง นอกจากการทำงานที่รวดเร็วและได้ประสิทธิภาพสม่ำเสมอแล้ว โคบอทเป็นแขนโรบอทที่มีความแม่นยำในการทำงานสูง โดยถูกออกแบบมาเพื่อรองรับโปรแกรมการทำงานที่อาศัยความละเอียดอ่อนได้เช่นการจัดวางสินค้า การประกอบชิ้นส่วนที่มีความเปราะบาง โรบอทเหล่านี้สามารถทำงานที่อาศัยความละเอียดได้ดีเทียบเท่ามือของมนุษย์เลยทีเดียว
กรณีศึกษาการใช้โรบอทแขนกล ในบริษัทยา ซาโนฟี่ (Sanofi)
เพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการผลิตและลดภาระงานของบุคคลการด้วยโรบอท
ซาโนพี่ เป็นบริษัทชั้นนำด้านสุขภาพและเป็นผู้ผลิตยารักษาและวัคซีนรูปแบบต่างๆระดับโลก โดยปัจจุบันตัวบริษัทมีพนักงานมากกว่า 10,000 คนรอบโลกในสายการผลิตขององค์กร ทั้งนี้ ซาโนฟี่ได้มีการใช้ โคบอทในสายการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยแขนโรบอทที่ถูกติดตั้งในสายการผลิตจะมีหน้าที่ในการ ติดฉลากและลำเลียงกล่องสินค้าแทนการใช้มนุษย์ การใช้โคบอทของ ซาโนฟี่ช่วยลดภาระการทำงานของพนักงานได้เป็นอย่างมากและประหยัดพื้นที่ในการทำงาน รวมไปถึงการลดการทำงานที่อาศัยแรงงานสูงอย่างการยกกล่องวันละ 600-700 กิโลกรัมต่อวัน หากใช้พนักงานยกของจำนวนนี้เป็นเวลานานทุกๆวัน อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของพนักงานได้ในระยะยาว ดังนั้นแล้วโคบอทจึงมีส่วนช่วยให้ ซาโนฟี่แบ่งเบาภาระงานของพนักงานตัวเอง และสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ไวมากขึ้นและปลอดภัยมากขึ้น
กรณีศึกษาการใช้โรบอทแขนกล ของบริษัท อเมซอน
การทำงานในสเกลใหญ่โดยมนุษย์และโคบอท
ณ เวลานี้ อเมซอนคือหนึ่งในบริษัทขนส่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีการส่งสินค้าและพัสดุมากกว่า 1.6 ล้านชิ้น ในแต่ละวัน การทำงานในสเกลขนาดนี้นั้นต้องอาศัยกระบวนการทำงานที่มีความแม่นยำ อเมซอนจึงได้มีการสร้างรูปแบบการทำงานระหว่างมนุษย์และโรบอทที่ทำงานร่วมกันเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด แขนโคบอทมีหน้าที่ในการจัดเรียงและยกพัสดุเข้าใส่ช่องขนส่งต่างๆ ที่อาจมีน้ำหนักมากถึง 1.2 ตัน! โดยมนุษย์มีหน้าที่ในการตรวจสอบความถูกต้องของพัสดุก่อนขนส่ง อเมซอน จึงประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจากการใช้โรบอทและพนักงานในการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างระบบที่มีประสิทธิภาพสูง ลดระยะเวลาทำงานและเพิ่มกำไรได้มากขึ้น
บทสรุป
จะเห็นได้ว่า โคบอทได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในสายการผลิตและกระบวนการทำงานในอุตสาหกรรมต่างๆมากยิ่งขึ้น โดยมีการใช้แขนโรบอทเหล่านี้ในการลดภาระการทำงานของพนักงาน ในส่วนงานที่ต้องอาศัยการทำซ้ำๆ การใช้โคบอทจึงเป็นหนึ่งในทางเลือกใหม่ที่ลดทอนการใช้คนทำงานเหล่านั้นและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตอย่าสม่ำเสมอยิ่งขึ้นและสร้างกำไรในธุรกิจได้ในระยะยาว!